ประตูเลื่อนอัตโนมัติ ประตูอัตโนมัติ แบบประตูบานเลื่อนเซเว่น
ประตูเลื่อนอัตโนมัติ เป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่เกิดมาในยุคโลกที่หมุนเร็วขึ้นทุกวัน เทคโนโลยีได้เข้ามาช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของเราในหลากหลายมิติ หนึ่งในนวัตกรรมที่เห็นได้ชัดและใกล้ตัวเรามากที่สุด “ประตูเลื่อนอัตโนมัติ” เป็นเทคโนโลยีที่เข้ามาแทนที่ประตูแบบเดิม ๆ ด้วยความสะดวกสบาย ปลอดภัย และทันสมัย ช่วยป้องกั้นเชื้อโรค และฝุ่นละอองต่างๆ ได้เป็นอย่างดี สามารถนำไปตรวจสอบคนะเข้าออกพื้นที่เพื่อช่วยเพิ่มความปลอดภัยได้ เพราะในส่วนของประตูชนิดนี้มาพร้อมกับรูปแบบการสั่งเปิดที่สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมต่างๆได้อย่างมากมายตามความต้องการในยุคปัจจุบัน
หากสนใจติดตั้งประตูอัตโนมัติ ทางเรายินได้ให้คำปรึกษาฟรี
LINE : @jtpark
ข้อดี และเหตุผล ของการติดตั้ง ประตูเลื่อนอัตโนมัติ
เมื่อนึกถึงประตูเลื่อนอัตโนมัติ หลายคนคงคุ้นเคยกับ “ประตูเซเว่น” ซึ่งบางครั้งหลายๆคนเรียกประตูชนิดนี้ว่าเป็นประตูเลื่อนเซเว่นไปเลยก็มี โดยประตูบานเลื่อนทำการเปิดแบบอัตโนมัติจะมีทั้งแบบบานเลื่อนเดียว และบานเลื่อนแบบคู่ ซึ่งมี ข้อดีและเหตุผล ที่ควรพิจารณาติดตั้งในสถานที่ต่าง ๆ ดังนี้:
ความสะดวกสบายสูงสุด:
ด้วยระบบเซ็นเซอร์ที่ตอบสนองรวดเร็ว ทำให้การเข้า-ออกเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่ติดขัด ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาเร่งด่วน หรือมีผู้คนพลุกพล่าน
ประหยัดพื้นที่:
ประตูเลื่อนจะเคลื่อนที่ไปด้านข้าง ทำให้ไม่กินพื้นที่ด้านหน้าหรือด้านหลังประตูเหมือนประตูบานเปิด เหมาะสำหรับอาคารที่มีพื้นที่จำกัด
ปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน:
ระบบเซ็นเซอร์และกลไกความปลอดภัยที่ติดตั้งมาพร้อมกับประตูอัตโนมัติรุ่นใหม่ ๆ มีระบบป้องกันการหนีบ หรือระบบตรวจจับสิ่งกีดขวาง ทำให้ปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน โดยเฉพาะเด็กเล็กและสัตว์เลี้ยง
ควบคุมอุณหภูมิได้อย่างมีประสิทธิภาพ:
ประตูเซเว่นมีการเปิด-ปิดที่รวดเร็ว ช่วยรักษาอุณหภูมิภายในอาคารให้คงที่ ลดการสูญเสียพลังงานของเครื่องปรับอากาศได้อย่างมาก ซึ่งส่งผลดีต่อค่าใช้จ่ายในระยะยาว
ทนทานและดูแลรักษาง่าย:
ประตูอัตโนมัติได้รับการออกแบบมาให้มีความทนทานต่อการใช้งานหนัก และมักจะมีบริการบำรุงรักษาจากผู้ติดตั้ง ทำให้มั่นใจได้ถึงการใช้งานที่ยาวนาน
เพิ่มมูลค่าและภาพลักษณ์:
การติดตั้งประตูเลื่อนอัตโนมัติช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับอสังหาริมทรัพย์ และสร้างความประทับใจแรกให้กับผู้มาเยือน ทำให้สถานที่ดูมีความเป็นสากลและทันสมัย
เทคโนโลยีประตูเลื่อนอัตโนมัติไม่ได้เป็นเพียงแค่ความหรูหรา แต่เป็นสิ่งอำนวยความสะดวกที่ตอบโจทย์วิถีชีวิตยุคใหม่ได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นในด้านความสะดวกสบาย สุขอนามัย ป้องกันฝุ่น การประหยัดพลังงาน หรือแม้แต่การเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดี การลงทุนในประตูอัตโนมัติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประตูเลื่อนอัตโนมัติแบบที่เราคุ้นเคยกันดีในร้านสะดวกซื้อ จึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าและสร้างประโยชน์ในระยะยาวได้อย่างแท้จริง
ชุดรางประตูเลื่อนอัตโนมัติ รุ่นต่างๆ auto door
ชุดรางประตูเลื่อนอัตโนมัติมีหลากหลายรุ่นให้เลือกใช้งาน แต่ละรุ่นมีความสามารถรองรับน้ำหนักที่แตกต่างกันไป ลูกค้าสามารถเลือกรุ่นให้เหมาะสม กับหน้างานของลูกค้าเองได้ แต่ถ้าหากไม่แต่ใจว่าจะใช้รุ่นไหนสามารถติดต่อสอบถามฝ่ายขายของเราได้
- เหมาะสำหรับประตูอัตโนบัติบานเลื่อนแบบบานคู่
- รับน้ำหนัก 80 กิโลกรัมต่อบาน ( 80+80 Kg)
- ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์กำลังไฟ 24V DC brushless motor
- สามารถใช้ฟิงก์ชั่น interlock เพื่อเชื่อมต่อการเปิด-ปิดของประตู 2 บาน
ให้สอดคล้องกัน - สามารถเพิ่มแบตตอรี่สำรองได้เพื่อให้ทำงานต่อเนื่องเมื่อไฟฟ้าดับ
(อุปกรณ์เสริม) - สามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เสริมต่างๆตามความต้องการ แช่น เซนเชอร์
สวิตช์ติดผนัง เป็นต้น หรือใช้งานร่วมกับระบบบควบคุมการเข้า-ออก
- เหมาะสำหรับประตูอัตโนบัติบานเลื่อนแบบบานเดี่ยว
- รับน้ำหนัก 70 กิโลกรัม
- ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์กำลังไฟ 24V DC brushless motor
- สามารถใช้ฟิงก์ชั่น interlock เพื่อเชื่อมต่อการเปิด-ปิดของประตู 2 บาน
ให้สอดคล้องกัน - สามารถเพิ่มแบตตอรี่สำรองได้เพื่อให้ทำงานต่อเนื่องเมื่อไฟฟ้าดับ
(อุปกรณ์เสริม) - สามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เสริมต่างๆตามความต้องการ แช่น เซนเชอร์
สวิตช์ติดผนัง เป็นต้น หรือใช้งานร่วมกับระบบบควบคุมการเข้า-ออก
- เหมาะสำหรับประตูอัตโนบัติบานเลื่อนแบบบานซ้อน
- รับน้ำหนัก 100 กิโลกรัมต่อบาน ( 100×4 Kg หรือ 100×6 Kg)
- ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์กำลังไฟ 24V DC brushless motor
- สามารถใช้ฟิงก์ชั่น interlock เพื่อเชื่อมต่อการเปิด-ปิดของประตู
- สามารถเพิ่มแบตตอรี่สำรองได้เพื่อให้ทำงานต่อเนื่องเมื่อไฟฟ้าดับ
(อุปกรณ์เสริม) - สามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เสริมต่างๆตามความต้องการ แช่น เซนเชอร์
สวิตช์ติดผนัง เป็นต้น หรือใช้งานร่วมกับระบบบควบคุมการเข้า-ออก
- เหมาะสำหรับประตูอัตโนบัติบานเลื่อนแบบเดี๋ยว และบานคู่
- บานเดี่ยวรับน้ำหนักได้300 กิโลกรัม บานคู่รับได้ 250 กิโลกรัมต่อบาน (250+250 Kg.)
- ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์กำลังไฟ 24V DC brushless motor
- สามารถใช้ฟิงก์ชั่น interlock เพื่อเชื่อมต่อการเปิด-ปิดของประตู
- สามารถเพิ่มแบตตอรี่สำรองได้เพื่อให้ทำงานต่อเนื่องเมื่อไฟฟ้าดับ
(อุปกรณ์เสริม) - เป็นชุดรางประตูเลื่อนที่เหมาะสำหรับประตูที่มีหนักสูง หรือบานเลื่อนขนาดใหญ่
- เหมาะสำหรับประตูอัตโนบัติบานเลื่อนแบบเดี๋ยว และบานคู่
- บานเดี่ยวรับน้ำหนักได้ 120 กิโลกรัม บานคู่รับได้ 100 กิโลกรัมต่อบาน (100+100 Kg.)
- ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์กำลังไฟ 24V DC brushless motor
- สามารถใช้ฟิงก์ชั่น interlock เพื่อเชื่อมต่อการเปิด-ปิดของประตู
- สามารถเพิ่มแบตตอรี่สำรองได้เพื่อให้ทำงานต่อเนื่องเมื่อไฟฟ้าดับ
(อุปกรณ์เสริม) - สามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เสริมต่างๆตามความต้องการ แช่น เซนเชอร์
สวิตช์ติดผนัง เป็นต้น หรือใช้งานร่วมกับระบบบควบคุมการเข้า-ออก
- เหมาะสำหรับประตูอัตโนบัติบานเลื่อนแบบเดี๋ยว และบานคู่
- บานเดี่ยวรับน้ำหนักได้ 150 กิโลกรัม บานคู่รับได้ 125 กิโลกรัมต่อบาน (125+125 Kg.)
- ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์กำลังไฟ 24V DC brushless motor
- สามารถใช้ฟิงก์ชั่น interlock เพื่อเชื่อมต่อการเปิด-ปิดของประตู
- สามารถเพิ่มแบตตอรี่สำรองได้เพื่อให้ทำงานต่อเนื่องเมื่อไฟฟ้าดับ
(อุปกรณ์เสริม) - เป็นรุ่นที่สามารถใช้งานในส่วนของอาคารพาณิชย์ได้เป็นอย่างดี เช่นห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกซื้อเป็นต้น
- เหมาะสำหรับประตูอัตโนบัติบานเลื่อนแบบบานคู่
- รับน้ำหนัก 120 กิโลกรัมต่อบาน ( 120+120 Kg)
- ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์กำลังไฟ 24V DC brushless motor
- สามารถใช้ฟิงก์ชั่น interlock เพื่อเชื่อมต่อการเปิด-ปิดของประตู 2 บาน
ให้สอดคล้องกัน - สามารถเพิ่มแบตตอรี่สำรองได้เพื่อให้ทำงานต่อเนื่องเมื่อไฟฟ้าดับ
(อุปกรณ์เสริม) - เหมาะสำหรับประตูอาคารพาณิชย์ ร้านสะดวกซื้อ ห้างสรรพสินค้า ที่ใช้ประตูบานเลื่อนไม่ใหญ่เป็นพิเศษ
- เหมาะสำหรับประตูอัตโนบัติบานเลื่อนแบบบานคู่
- รับน้ำหนัก 120 กิโลกรัมต่อบาน ( 120+120 Kg)
- ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์กำลังไฟ 24V DC brushless motor
- สามารถใช้ฟิงก์ชั่น interlock เพื่อเชื่อมต่อการเปิด-ปิดของประตู 2 บาน
ให้สอดคล้องกัน - สามารถเพิ่มแบตตอรี่สำรองได้เพื่อให้ทำงานต่อเนื่องเมื่อไฟฟ้าดับ
(อุปกรณ์เสริม) - เป็นรุ่นที่เหมาะสำหรับอาคารพาณิชย์เช่นได้เดียวกับรุ่นที่ผ่านมา ต่างกันที่ตัวมอเตอร์ ที่มีความแตกต่างกันในเรื่องของวัสดุ
รูปแบบการสั่งเปิด ประตูเลื่อนอัตโนมัติ Auto Door
การสั่งเปิดประตูชนิดนี้สามารถจัดทำให้หลากหลายแบบ ขึ้นอยู่กับความต้องการซึ่งโดยทั่วไปแล้วชุดรางประตูชนิดนี้มักจะได้รับความนิยมเอาไปติดไว้เพื่อป้องกันฝุ่นป้องกันแอร์ออก เป็นหลัก แต่ในความเป็นจึงสามารถนำไปติดตั้งกับระบบสั่งเปิดอื่นๆได้อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นตามหอฟักตามคอนโด สามารถไปใช้กับคีย์การ์ดระบบสแกนลายนิ้วมือ ของพนักงานต่างๆ เป็นการจำกัดสิทธิ์ในการเข้าออกพื้นที่ได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว
ตรวจจับความเคลื่อนไหว Microwave Sensor :
เป็นรูปแบบที่พบเห็นได้บ่อยที่สุด เซ็นเซอร์จะติดตั้งอยู่เหนือประตูและตรวจจับการเคลื่อนไหวของบุคคลหรือวัตถุที่เข้ามาในระยะ ทำให้ประตูเปิดออกโดยอัตโนมัติ
- ข้อดี: สะดวกสบาย ไม่ต้องสัมผัส ลดการแพร่กระจายเชื้อโรค
- ข้อจำกัด: อาจเกิดการเปิดโดยไม่ตั้งใจจากสัตว์เลี้ยง วัตถุที่เคลื่อนไหว หรือกระแสลม
สแกนนิ้ว (Fingerprint Scanner):
นิยมใช้ในพื้นที่ที่ต้องการความปลอดภัยสูง เช่น ห้องเก็บเอกสารสำคัญ หรือห้องทำงานเฉพาะบุคคล ผู้ใช้งานจะต้องวางนิ้วมือลงบนเครื่องสแกนเพื่อยืนยันตัวตนก่อนที่ประตูจะเปิด
- ข้อดี: ปลอดภัยสูง ควบคุมการเข้าถึงได้
- ข้อจำกัด: อาจมีปัญหาในการสแกนนิ้วที่เปียกชื้น หรือสกปรก
สแกนหน้า (Facial Recognition):
เทคโนโลยีที่ทันสมัยขึ้นมาอีกขั้น โดยใช้การจดจำใบหน้าเพื่ออนุญาตการเข้าถึง เหมาะสำหรับพื้นที่ที่ต้องการความปลอดภัยและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย
- ข้อดี: ปลอดภัยสูง สะดวกสบาย ไม่ต้องสัมผัส
- ข้อจำกัด: อาจมีข้อกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัว ความแม่นยำอาจลดลงในสภาพแสงน้อย หรือมีการเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์
ปุ่มกด (Push Button):
เป็นวิธีที่ง่ายและตรงไปตรงมาที่สุด ผู้ใช้งานจะต้องกดปุ่มเพื่อสั่งให้ประตูเปิด มักใช้ร่วมกับระบบอื่น ๆ เพื่อเป็นทางเลือกเสริม
- ข้อดี: ใช้งานง่าย ต้นทุนต่ำ
- ข้อจำกัด: ต้องมีการสัมผัส ไม่เหมาะสำหรับพื้นที่ที่ต้องการสุขอนามัยสูง
สแกนบัตร (Card Reader):
ใช้บัตรประจำตัว (เช่น บัตร RFID, บัตร Proximity) แตะหรือเสียบเข้ากับเครื่องอ่านเพื่อสั่งเปิดประตู นิยมใช้ในอาคารสำนักงาน หรือโรงแรม
- ข้อดี: ควบคุมการเข้าถึงได้ง่าย สามารถกำหนดสิทธิ์การใช้งานได้
- ข้อจำกัด: ต้องพกบัตร หากบัตรหายอาจเป็นปัญหา
อื่น ๆ:
- รีโมทคอนโทรล (Remote Control): ใช้สำหรับควบคุมประตูจากระยะไกล เหมาะสำหรับที่อยู่อาศัยหรือโรงรถ
- ระบบเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน (Smartphone Integration): ควบคุมการเปิด-ปิดผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน เพิ่มความสะดวกสบายและสามารถตรวจสอบสถานะประตูได้
